สารพัดเมนูที่ตั้งวางเรียงรายอยู่ข้างหน้าเรานั้น จะเลือกบริโภคให้สบายใจได้อย่างไร ว่าจะไม่ทำให้เกิดโรค ?
ที่ต้องถาม เพราะที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เราไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าภาวะโรคภัยต่างๆที่รุมเร้าอยู่ เกินครึ่งมีสาเหตุมาจากสภาวะการขาดสารอาหาร หรือได้รับสารอาหารนั้นมากเกินไป จึงทำให้เกิดภาวะไม่สมดุลของร่างกาย
หลายคนพยายามหาทางออก หันมาใส่ใจดูแลรักษาสุขภาพด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นวิธีสร้างภูมิคุ้มกันที่ทำได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก พวกเขาเลือกบริโภคสิ่งที่มีคุณค่าและมีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะอาหารจากครัวไทยที่เพียบพร้อมไปด้วยเมนูรายการอาหารต่างๆ มากมายครบครันในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็น จานทอด ผัด อบ ที่ใช้น้ำมันในการปรุงอาหาร
แต่จะใช้น้ำมันชนิดใดในการปรุงอาหารกันล่ะ
หนึ่งในน้ำมันที่ดีที่สุดในโลก และอุดมสมบูรณ์ในบ้านเรา อย่าง "น้ำมันรำข้าว" อย่างไรเล่า
องค์การอนามัยโลก สมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกา และองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติแนะนำว่า น้ำมันรำข้าวเหมาะสมต่อการบริโภค เนื่องจากน้ำมันรำข้าวมีปริมาณกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวสูงกว่าน้ำมันทานตะวันและน้ำมันถั่วเหลือง แต่น้อยกว่าน้ำมันมะกอก และเนื่องจากน้ำมันมะกอกมีราคาสูงมาก
อีกทั้ง คุณงามความดีของน้ำมันรำข้าว ยังอยู่ที่ความนิยมและน่าส่งเสริม เพราะบ้านเราปลูกข้าวเป็นหลักอยู่แล้ว เมื่อนำข้าวเปลือกไปสีจะมีรำข้าวที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง มีสารอาหารและวิตามินหลายชนิด เช่น Omega3 ,กลุ่มวิตามินอี,แกมม่า-โอโรซานอล,Phospholipid เป็นต้น ซึ่งจะพบเฉพาะในน้ำมันรำข้าวเท่านั้น
พวกมันมีประโยชน์มหาศาลในการป้องกันและบำบัดภาวะโรคสมองเสื่อม (อัลไซเมอร์) มีคุณสมบัติรักษาสมดุลของระบบประสาท บำรุงสมองเสริมความจำ ป้องกันโรคสมองเสื่อม
นอกจากนี้ สาร Gamma-Oryzanol,Phytosterol,Tocopherol,Tocotrienol,Oleic Acid (Omega 9) ยังช่วยลดคลอเรสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) ช่วยลดไตรกลีเซอไรด์ และเพิ่มระดับของคลอเรสเตอรอลที่ดี (HDL) มีประโยชน์ต่อร่างกาย มีผลทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกายทำงานเป็นปกติ อวัยวะต่างๆ เช่น หัวใจ สมอง ตับ ไต ทำงานได้ดีขึ้น
สามารถป้องกันการเกิดโรคหัวใจ และกลุ่มโรคหลอดเลือดตีบตันได้ เช่น โรคหัวใจขาดเลือด,หัวใจวาย ,อัมพาต,อัมพฤกษ์ เป็นต้น
และยังมีสารโพลิโคซานอล (Policosanol) ทำหน้าที่เป็นสารป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด ช่วยให้ผู้ป่วยโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือด มีระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น
แถมมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง และยังมีธาตุโครเมียม ซึ่งธาตุนี้เมื่อร่างกายดูดซึมเข้าสู่ระบบไหลเวียนโลหิต จะทำหน้าที่ในการจับฮอร์โมนอินซูลิน ทำให้ฮอร์โมนอินซูลิน คงตัวได้นานเกาะตามเซลล์ต่างๆของกล้ามเนื้อ ทำให้ฮอร์โมนอินซูลินมีประสิทธิภาพสูงขึ้น มีผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานควบคุมได้ง่ายขึ้น
และสำหรับคนในวัยหนุ่มสาว หรือผู้ที่ยังไม่ป่วย น้ำมันรำข้าวที่มีวิตามินและแร่ธาตุมากมาย เช่น โครเมียม,แมกนีเซียม,แมงกานีส,สังกะสี,ซีลิเนียม,เหล็ก,โปแตสเซียม ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของระบบหัวใจ ,ระบบประสาท ,ระบบสมอง และอวัยวะอื่นๆ ก็จะช่วยรักษาสมดุลของระบบประสาท บำรุงสมอง และคืนความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง บำรุงผิวพรรณได้ดี ทำให้ผิวยืดหยุ่นลดริ้วรอย ป้องกันรังสี UV จากแสงแดด และช่วยปรับสภาพผิวทำให้ดูขาวกระจ่างใส
นอกจากนั้น โปรวิตามินเอ - เบต้าแคโรทีน ยังสามารถป้องกันโรคที่เกิดจากการขาดวิตามินเอได้ โดยเฉพาะโรคน้ำตาแห้ง เป็นต้น นอกจากนี้ยังบำรุงเส้นผมให้ดกดำเป็นเงางามและมีสุขภาพเล็บที่ดี
และถ้าใครนอนไม่ค่อยหลับล่ะก็ ในน้ำมันรำข้าวสกัดมีสารกระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารเมลาโทนิน (Melatonin) จะช่วยทำให้นอนหลับสบาย ช่วยลดความเครียดได้
ทั้งนี้ น้ำมันรำข้าวที่ดีนั้น เมื่อนำมาปรุงอาหารจะต้องไม่กลบกลิ่นและรสชาติของอาหาร แต่กลับทำให้รับรสความอร่อยของวัตถุดิบได้อย่างแท้จริง ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวทำให้ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ในหลายประเทศทั้งในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อเมริกา ญี่ปุ่น ฮ่องกง มาเลเซีย แถบประเทศยุโรป และตะวันออกกลาง
น้ำมันรำข้าว จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภคที่ห่วงใยสุขภาพอย่างแท้จริง
_______________
น้ำสลัดสูตร กอบสุข (สำหรับ 4-6 ท่าน)
ส่วนผสม
น้ำมันรำข้าว 125 มิลลิลิตร
พริกไทยดำตำละเอียด 1 ช้อนชา
กระเทียมสับ 1 ช้อนชา
เกลือทะเลตำหยาบ 1 ช้อนชา
น้ำส้มสายชูหมัก แอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา
เม็ดเคเปอร์( Capers) ดอง 1 ช้อนชา
แตงกวาดองฝรั่งขนาดจิ๋ว ฝานเป็นแว่น 1 ช้อนชา
ลูกมะกอกดอง ฝานเป็นแว่น หรือสับ 1 ช้อนชา
พริกไทยดำตำละเอียด 1 ช้อนชา
กระเทียมสับ 1 ช้อนชา
เกลือทะเลตำหยาบ 1 ช้อนชา
น้ำส้มสายชูหมัก แอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา
เม็ดเคเปอร์( Capers) ดอง 1 ช้อนชา
แตงกวาดองฝรั่งขนาดจิ๋ว ฝานเป็นแว่น 1 ช้อนชา
ลูกมะกอกดอง ฝานเป็นแว่น หรือสับ 1 ช้อนชา
วิธีการผสมน้ำสลัด
ใส่ส่วนผสมข้างต้นลงในชามสลัดขนาดประมาณ1 ลิตร ตามลำดับ แล้วใช้ช้อนหรือส้อมสำหรับทำสลัดขนาดใหญ่ คนให้เข้ากัน เพิ่มเกลือ น้ำผึ้ง น้ำส้มสายชูหมัก ตามรสชาติที่ชอบ
ผักสลัดแนะนำ
เรดโอ้ค, กรีนโอ้ค, ไอซ์เบิร์กเลททิช, มะเขือเทศราชินี, เบลเปปเปอร์ และทูน่าก้อนในน้ำเกลือ (บดเป็นชิ้นเล็กๆ)
กุ้งคลุกกระเทียม ( ออเดิร์ฟ, สำหรับ 2 - 3 ท่าน )
ส่วนผสม
ส่วนผสม
- กุ้งนางไว้หาง ผ่าหลังและปอกเปลือก 400 กรัม
- น้ำมันรำข้าว 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียม ( นำมาบด ) 2 หัว
- ผักชี ( นำมาสับ ) 1/4 ถ้วย
- น้ำมันรำข้าว 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียม ( นำมาบด ) 2 หัว
- ผักชี ( นำมาสับ ) 1/4 ถ้วย
วิธีปรุง
1. อุ่นให้ความร้อนเตาบาร์บีคิว
2. นำกุ้งที่เตรียมไว้ ใส่ลงในถ้วยขนาดกลาง
3. ผสมน้ำมันรำข้าวอัลฟ่า วันและกระเทียมคลุกเคล้าให้เข้ากันและนำไปเทรวมกับกุ้งในถ้วย
4. เทกุ้งที่ผสมเข้ากันแล้ว ลงบนเตาย่างบาร์บีคิว
5. สังเกตสีบนตัวกุ้ง จนกระทั่งมีสีชมพู แล้วจึงนำขึ้น
6. โรยหน้าด้วยผักชีสับ และนำขึ้นเสริฟ ( ทานพร้อมซอสพริกสูตรผสมน้ำมันรำข้าว )
2. นำกุ้งที่เตรียมไว้ ใส่ลงในถ้วยขนาดกลาง
3. ผสมน้ำมันรำข้าวอัลฟ่า วันและกระเทียมคลุกเคล้าให้เข้ากันและนำไปเทรวมกับกุ้งในถ้วย
4. เทกุ้งที่ผสมเข้ากันแล้ว ลงบนเตาย่างบาร์บีคิว
5. สังเกตสีบนตัวกุ้ง จนกระทั่งมีสีชมพู แล้วจึงนำขึ้น
6. โรยหน้าด้วยผักชีสับ และนำขึ้นเสริฟ ( ทานพร้อมซอสพริกสูตรผสมน้ำมันรำข้าว )
ที่มา: บริษัท อมรไชย จำกัด http://www.kamolkij.com/
